จากงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งแรก เมื่อ 3 มกราคม 2455 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แม้จะเว้นว่างบางปีจากเหตุการณ์บ้านเมือง แต่งานๆ นี้ก็มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว มาในปีนี้ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติครั้งที่ 64 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สุดยอดเด็กไทย ก้าวไกลสู่สากล” โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ณ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2558
งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ คือ เวทีสำคัญในการแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา นักเรียนต้องฝึกฝนศิลปหัตถกรรมแขนงต่างๆ ก่อนที่จะผ่านการคัดเลือกในระดับโรงเรียน กลุ่มโรงเรียน จังหวัด สู่การแข่งขันระดับประเทศ ที่เด็กๆ จากทั่วประเทศจะเดินทางมารวมตัวกันเพื่อตัดสินผู้ชนะในโค้งสุดท้าย อีกทั้งครูจากแต่ละภูมิภาคยังได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาการศึกษาอย่างเป็นระบบ
“Samsung Smart Learning Center ซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต” เป็นโครงการภายใต้นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมที่ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งได้รับเชิญมาเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติเป็นครั้งแรกในปีนี้
บูธของโครงการฯ ตั้งอยู่บริเวณ Challenger 3 ใกล้กับเวทีพิธีเปิด ภายในประกอบด้วย “ห้องเรียนแห่งอนาคตจำลอง” ห้องเรียนที่ผสานอุปกรณ์เทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการเรียนรู้แบบใหม่ และบอร์ดนิทรรศการ “ห้องเรียนแห่งอนาคตเพื่ออนาคตเด็กไทย” ที่อธิบายแนวคิดของโครงการฯ นั่นคือ การเปลี่ยนการเรียนรู้ของเด็กๆ จากผู้รับฟัง (Passive Learner) สู่การเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Active learner) เปลี่ยนบทบาทของครูผู้สอนจากผู้บรรยาย (Lecturer) สู่ผู้ให้คำปรึกษา (Coach) โดยไม่ชี้นำความถูก-ผิด ซึ่งนับเป็น “นวัตกรรมทางการศึกษา” ที่นำแนวคิดจากสากลมาปรับสู่บริบทสังคมในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
ตลอด 3 วัน บูธของโครงการฯ ได้รับความสนใจจากทั้งครูและนักเรียนเป็นจำนวนมาก ทั้งถามว่าอะไรคือห้องเรียนแห่งอนาคต การเปลี่ยนแปลงของนักเรียนคืออะไร และผู้ที่สนใจจะเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างไร โดยมีครูและนักเรียนที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ จากโรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ จ.ปทุมธานี โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา จ.กาญจนบุรี โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี และโรงเรียนเทิงวิทยาคม จ.เชียงราย คอยตอบข้อสงสัยและบอกเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา
จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2556 โครงการ “Samsung Smart Learning Center ซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต” ได้ริเริ่ม “ห้องเรียนแห่งอนาคต” จนสำเร็จแล้วทั้งสิ้น 31 โรงเรียน โดยมีเป้าหมายสู่ 40 โรงเรียนภายในปี 2558 การออกบูธในครั้งนี้ นอกจากเป็นการบอกเล่าแนวคิดของโครงการฯ แล้ว เรายังหวังให้แนวคิด “ห้องเรียนแห่งอนาคต” แพร่หลายสู่วงกว้าง และเกิดการนำไปใช้ในระบบโรงเรียนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมเด็กไทยสู่โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง